สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการจีนออกมาเปิดเผยตัวเลขทางเศรษฐกิจของภาคอสังหาริมทรัพย์จีน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ทั้งยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในจีน และเม็ดเงินการลงทุนในตลาดอสังหาฯตลอดสิบเดือนแรกของปีนี้ ลดลงอย่างน่าเป็นกังวล
ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในจีนร่วงลดหนักที่สุดในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยหลิว อ้ายฮัว โฆษกกรมสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในจีน ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนตุลาคมปี 2023 ร่วงลง 7.8 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2022
“สี จิ้นผิง” ได้อะไรบ้าง? จากการบรรลุข้อตกลงกับ “ไบเดน” ในเวทีเอเปค 2023
กัมพูชาเปิดสนามบินแห่งใหม่ ด้วยทุนสนับสนุนจากจีน คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ย้อนรอยโครงการ "ตำรวจจีนในอิตาลี" มีจุดเริ่มต้น-จุดจบอย่างไร?
โฆษกกรมสถิติแห่งชาติจีนระบุว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนกำลังอยู่ภายใต้การปรับตัว ท่ามกลางช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน
"ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคม การลงทุนภาคพัฒนาอสังริมทรัพย์แห่งชาติ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกัน 9.3 เปอร์เซ็นต์ ที่น่าสังเกต คือการลดลงเพิ่มขึ้น 0.2 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาจากเดือนมกราคมถึงกันยายน ระหว่างในช่วงเวลาเดียวกัน ยอดจำหน่ายที่อยู่อาศัยเพื่อการพาณิชย์แบบพื้นที่เป็นชั้นก็ลดลง 7.8 เปอร์เซ็นต์ และยอดขายอาคารที่อยู่อาศัยเพื่อการพาณิชย์ก็ลดลง 4.9 เปอร์เซ็นต์ อ้างอิงโดยตัวเลขเหล่านี้ มันเป็นหลักฐานที่ชี้ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังอยู่ภายใต้ระยะการปรับตัว ท่ามกลางช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน" หลิวกล่าว
ทางการพยายามระดมมาตรการต่างๆ เพื่อส่งเสริมตลาดอสังริมทรัพย์ ซึ่งรวมถึงการผ่อนคลายข้อจำกัดในการซื้อบ้าน การลดค่าใช้จ่ายในการกู้ยืม แต่ดูเหมือนว่า นโยบายเหล่านั้นจะยังไม่ค่อยได้ผลดีนักในเมืองใหญ่ๆหลายเมือง
วิกฤตดังกล่าวเกิดขึ้น ท่ามกลางบริษัทอสังริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของจีนประสบปัญหาทางการเงิน เช่น บริษัทคันทรี่ การ์เด้น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ ซึ่งพบว่า โครงการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์หลายโครงการของคันทรี่การ์เด้น สร้างไม่เสร็จ และถูกปล่อยให้ทิ้งร้างเอาไว้
แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โนมุระ บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของโลกเปิดเผยรายงานว่า ขณะนี้ในประเทศจีน มีโครงการบ้านที่ขายไปแล้วแต่ยังสร้างไม่เสร็จ มากกว่าโครงการของคันทรี่การ์เด้นที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ถึง 20 เท่า
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของโนมุระ นายถิง ลู่เปิดเผยว่า ทางโนมุระคาดการณ์ว่า มีโครงการบ้านจำหน่ายไปแล้วแต่ล่าช้าและยังสร้างไม่เสร็จมากกว่า 20 ล้านยูนิต และจำเป็นค้องใช้งบประมาณราว 3.2 ล้านล้านหยวน เพื่อจะไปก่อสร้างบ้านเหล่านั้นให้แล้วเสร็จ
ตามปกติแล้ว อพาร์ทเมนต์ในประเทศจีนจะวางขายให้เสร็จก่อนการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ
รายงานของโนมุระชี้ว่า ในมุมมองของโนมุระนั้น ท่ามกลางการล้มละลายของภาคอสังหาริมทรัพย์และการเสียเครดิตของบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ ผู้ซื้อบ้านอาจจะใจร้อนเพิ่มมากขึ้น ในการเฝ้ารอให้บริษัทส่งมอบบ้านใหม่ที่พวกเขาซื้อเอาไว้
และในช่วงปีหน้า ปัญหาการส่งมอบบ้านก็อาจจะกลายมาเป็นปัญหาทางสังคมและเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพทางสังคม โดยรัฐบาลจีนอาจจะจำเป็นต้องใช้นโยบายเร่งด่วนต่างๆเพื่อช่วยเหลือ ซึ่งโนมุระมองว่า การทเช่นนั้นถึงจะเป็นการช่วยรื้อฟื้นความเชื่อมั่นใจภาคอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจจีนคืนได้
เมื่อปีที่แล้ว บรรดาผู้ซื้อบ้านจำนวนมากในประเทศจีน ตัดสินใจที่จะไม่ผ่อนต่อ เนื่องจากประสบปัญหาการก่อสร้างล่าช้าออกไปมาก โดยบรรดาบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เผชิญกับวิกฤตทางการเงิน นับตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งการระบาดของโควิด 19 เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความยากลำบากของการก่อสร้างบ้าน
โนมุระยังคาดการณ์ว่า ถ้าสมมติในปีนี้มีบ้านใหม่สร้างแล้วเสร็จเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะสามารถส่งมอบบ้านใหม่ให้แก่ลูกค้าที่ซื้อล่วงหน้าระหว่างปี 2015-2022 ได้เพียงแค่ 48 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่อีก 52 เปอร์เซ็นต์ก็ต้องล่าช้าออกไปก่อน
อย่างไรก็ตาม แม้ภาคอสังริมทรัพย์จีนจะยังเผชิญกับวิกฤตที่ดูเหมือนว่า รัฐบาลอาจต้องเข้ามาอุ้มมากกว่านี้ แต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ในระหว่างการเปิดเผยตัวเลขต่างๆทางเศรษฐกิจของจีน ก็พบว่า มีหลายตัวเลขที่ดีขึ้น
อย่างยอดค้าปลีกขยายตัว 7.6 เปอร์เซ็นต์ในเดือนตุลาคม เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่าการคาดการณ์
ขณะที่ตัวเลขการผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 4.6 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนตุลาคม จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2022