ถือเป็นข่าวฮือฮาและได้รับความสนใจไปทั่วโลก สำหรับศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่าง 2 เจ้าพ่อเทคโนโลยีอย่าง "อีลอน มัสก์" และ "มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก" ที่ก่อนหน้านี้ ทั้งสองคนมีการตอบรับคำท้าดวลศึกมวยกรงผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยฝ่ายมัสก์เป็นคนยื่นคำท้าผ่านทวิตเตอร์ ขณะที่ซักเคอร์เบิร์กตอบสั้น ๆ ผ่านไอจีสตอรี่ว่า ส่งโลเคชั่นมาได้เลย
ล่าสุด มีกระแสข่าวว่า สังเวียนชกของทั้งคู่ก็ไม่ธรรมดา เพราะอาจไปต่อยกันที่โคลอสเซียม ซึ่งเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ตั้งอยู่ที่กรุงโรม ของอิตาลี
แม้แต่มัสก์เอง ก็ออกมาปั่นเรื่องนี้ โดยเจ้าตัวโพสต์ผ่านทวิตเตอร์ว่า มีโอกาสที่จะได้ไปสู้กันที่โคลอสเซียม
ข่าวลือดังกล่าวยิ่งสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับบรรดากองเชียร์ เพราะโคลอสเซียมคือสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ ซึ่งในอดีต เคยเป็นสังเวียนที่เหล่ากลาดิเอเตอร์ หรือนักสู้สมัยโรมัน ใช้ประลองกับสัตว์ร้าย โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน แต่ล่าสุด รัฐบาลอิตาลีออกมาดับฝันเหล่าแฟนคลับ โดยรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ข่าวนี้ไม่มีมูลความจริง ทางกระทรวงไม่เคยมีการส่งหมายเชิญ หรือเอกสารอย่างเป็นทางการ เพื่อชวนมัสก์หรือซักเคอร์เบิร์กมาสู้กันที่โคลอสเซียม และหากทั้งสองคนอยากมาทำการแสดงที่โคลอสเซียมจริงๆ คงต้องเป็นการแสดงที่ไม่เกี่ยวข้องกับความรุนแรง หากศึกนี้เกิดขึ้นจริง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแมตช์หยุดโลก เรามาลองเทียบข้อมูลก่อนชกของ มัสก์ และ ซักเคอร์เบิร์ก กัน
“มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก” รับคำท้า “อีลอน มัสก์” ชกมวยกรง
คาดมวยกรง “มัสก์-ซักเคอร์เบิร์ก” ทำเงินได้ 1 พันล้านดอลลาร์
อิตาลีเร่งตามตัว นทท.มือบอนสลักชื่อที่กำแพงโคลอสเซียม คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
หากดูในแง่ทักษะและความคล่องตัว เจ้าพ่อเทสลาเคยเรียนการต่อสู้ ทั้งคาราเต้, เทควันโด, ยูโด และยังประกาศว่าท่าไม้ตายของเขา คือ ท่าวอลรัส (Walrus) หรือการทิ้งน้ำหนักล้มทับร่างกายคู่ต่อสู้ แต่ฝั่งเจ้าพ่อเฟซบุ๊ก ก็ไม่น้อยหน้า เพราะไม่นานมานี้ เจ้าตัวเพิ่งเรียนกีฬา บราซิลเลียน ยิวยิตสู ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ที่เน้นการทุ่มและจับล็อกบนพื้น และเพิ่งคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันมาหมาดๆ
ภาพจาก AFP